แผลไฟไหม้-น้ำร้อนลวก เรียกได้ว่าเป็นแผลยอดฮิตที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย เพราะไฟและความร้อนคือปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวันของคนเรา เมื่อไหร่ที่เผลอ หรือไม่ระมัดระวังเพียงนิดเดียว ก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหลายคนจะคุ้นเคยกับแผลไฟไหม้-น้ำร้อนลวกจากประสบการณ์ของตัวเอง หรือคนใกล้ชิดเป็นอย่างดี แต่เชื่อว่ายังมีคนอีกมากที่อาจไม่เคยประสบกับแผลในลักษณะนี้มาก่อน บทความนี้จึงชวนมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับแผลไฟไหม้-น้ำร้อนลวก ผ่าน Q & A ที่รวบรวมมาฝากกัน
Q: ทำไมผิวหนังที่มีแผลไฟไหม้-น้ำร้อนลวกถึงมีหลายสี
A: บางครั้งเราเห็นผิวหนังที่โดนไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวกเป็นสีชมพู แต่บางครั้งก็เห็นเป็นสีแดง หรือสีอื่นๆ ซึ่งนั่นเป็นเพราะความรุนแรงของการเผาไหม้ผิวหนังที่ต่างกันไป เช่น ไฟไหม้ผิวชั้นนอกในระยะเวลาที่สั้นมากๆ ทำให้ผิวหนังมีรอยแดงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถ้าไฟไหม้ลึกลงไปจนทำลายหนังกำพร้าและหนังแท้ ผิวหนังอาจมีสีขาว ซีด เหลือง น้ำตาลไหม้ หรือดำได้
Q: จริงหรือไม่ที่แผลไฟไหม้-น้ำร้อนลวกห้ามโดนแดด
A: จริง เพราะแสงแดดจะกระตุ้นให้บริเวณที่เป็นแผลเกิดอาการแห้งและคันได้ และแม้ว่าแผลจะหายดีแล้ว ก็ยังควรต้องระวังไม่ให้ถูกแสงแดดอีก 3-6 เดือน และควรใช้น้ำมันหรือครีมโลชั่นทาที่ผิวหนัง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังด้วย
Q: ยาทาแผลภายนอกใช้รักษาแผลไฟไฟม้-น้ำร้อนลวกได้ทุกลักษณะใช่ไหม
A: ยาทาแผลไฟไหม้-น้ำร้อนลวกภายนอก เช่น BACTEX สามารถใช้ได้เฉพาะกับแผลที่มีความรุนแรงอยู่ในระดับที่ 1 (First degree burn) คือ แผลที่เกิดจากการเผาไหม้ที่ผิวหนังชั้นหนังกำพร้าเท่านั้น โดยแผลจะแดง ไม่มีตุ่มพอง และ ระดับที่ 2 (Second degree burn) คือแผลที่เกิดจากการเผาไหม้บริเวณหนังกำพร้าตลอดทั้งชั้น และหนังแท้ มีตุ่มพองใส และอาจมีน้ำเหลืองซึมร่วมด้วย แต่ไม่สามารถใช้กับแผลไฟไหม้ระดับที่ 3 ได้
Q: สรุปว่าควรใช้ว่านหางจระเข้ในการรักษาแผลหรือไม่
A: ความจริงแล้วว่านหางจระเข้สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนจากแผลไฟไหม้-น้ำร้อนลวกได้ เพราะในว่านมีทั้งกรดอะมิโน วิตามิน และเกลือแร่ที่ดีกับแผล แต่ไม่แนะนำให้ใช้ เพราะแม้ตัวว่านจะมีประโยชน์ แต่ยางของว่านมีฤทธิ์กัดกร่อนแผล และหากล้างไม่สะอาด อาจทำให้เปลือกของว่านปนเปื้อนเชื้อโรค และทำให้แผลติดเชื้อได้ ทางที่ดีเมื่อเกิดบาดแผล ควรใช้ยาแผนปัจจุบันที่มาในแพ็คเกจสะอาด ปลอดภัย เพื่อความมั่นใจในการดูแลรักษาบาดแผลให้ดีขึ้น
Q: เมื่อไฟไหม้ที่อวัยวะต่างๆ ควรมีวิธีการดูแลเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
A: หากบาดแผลไม่ได้ไหม้รุนแรงจนต้องผ่าตัด ให้ดูแลรักษาด้วยการทายาภายนอกอย่างสม่ำเสมอ และปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมการดูแลตามแต่ละอวัยวะ เช่น แผลไฟไหม้บริเวณใบหน้า ควรทายาและเปิดแผลทิ้งไว้ แผลไฟไหม้ที่มือ ควรทายา ปิดแผล และใส่เฝือกดาม พร้อมยกมือและแขนสูงกว่าระดับหัวใจใน 72 ชั่วโมงแรก แผลไฟไหม้ที่อวัยวะสืบพันธุ์ ให้เปิดแผลทิ้งไว้หลังจากทายา และล้างแผล พร้อมทายาใหม่ทุกครั้งที่ขับถ่าย เป็นต้น
Q: เป็นไปได้ไหมที่แผลไฟไหม้-น้ำร้อนลวกจะทำให้พิการ
A: มีโอกาสเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะกับแผลลึกที่เกิดบริเวณข้อต่อต่างๆ เพราะอาจทำให้เกิดแผลเป็นดึงรั้งจนข้อติด เคลื่อนไหวได้ไม่เต็มที่ หรืออวัยวะผิดรูปได้ ดังนั้นหากเกิดแผลลักษณะนี้ขึ้น ควรบริหารข้อต่ออย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมหยุดนิ่ง