รูปฝุ่นกับวิวเมือง
จากสถานการณ์ในปัจจุบันหลาย ๆ ท่านในเมืองกรุงคงจะประสบพบเจอกับมลพิษต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ ควันจากท่อไอเสีย กลิ่นจากขยะที่ถูกทิ้งตามข้างทางหรือแม่น้ำลำคลอง ฝุ่นจากการก่อสร้างตึกราบ้านช่อง เป็นต้น ยิ่งในช่วงเวลาอากาศนิ่ง ลมสงบ บรรจบกับอากาศเย็นสบายช่วงต้นปีแบบนี้แล้ว ยิ่งเป็นช่วงที่มีการก่อตัวของฝุ่นมากมายเป็นที่สุด และหนึ่งในภัยร้ายที่ซ้อนเร้นที่เป็นตัวปัญหาหลักมาในช่วง 2 – 3 ปีให้หลังนี้ก็คือ “PM 2.5” นั้นเองครับ
PM 2.5 คืออะไร และทำไมถึงอันตราย
รูปเทียบขนาดฝุ่นกับเส้นผมมนุษย์
PM 2.5 คือ ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือเข้าใจกันง่าย ๆ ก็คือ มลพิษทางฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 1 ใน 25 ส่วนของเส้นผ่าศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์ กล่าวคือ เล็กจนสามารถเล็ดลอดขนจมูกเข้าสู่ร่างกายได้โดยตรง มีขนาดเล็กเพียงครึ่งหนึ่งของเม็ดเลือดที่อยู่ภายในเส้นเลือดฝอย ดังนั้นเจ้าฝุ่นพิษ PM 2.5 นี้จึงสามารถเดินทางเข้าสู่เส้นเลือดฝอยแทรกซึมกระจายตัวไปตามอวัยวะต่าง ๆ ได้อย่าง่ายดาย
เจ้าฝุ่น PM 2.5 มีลักษณะที่ขรุขระคล้ายสำลี สามารถเป็นพาหะนำสารอื่น ๆ เข้ามาด้วย อาทิเช่น แคดเมียม ปรอท โลหะหนัก ไฮโดรคาร์บอน เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เป็นสารตั้งต้นก่อให้เกิดมะเร็งได้ ซึ่งโดยปกติแล้วฝุ่นที่มีขนาดใหญ่จะตกลงสู่พื้นตามแรงโน้มถ่วงของโลก แต่ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ไม่เกิน10ไมครอน (PM10) และเจ้าฝุ่น PM 2.5 ตัวร้ายนี้สามารถล่องลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศได้เป็นเวลานาน จึงทำให้เกิดการปะปนกับมลพิษอื่น ๆ ในอากาศได้ ฝุ่นละอองที่มีขนาดใหญ่กว่านั้นบางส่วนถูกดักจับโดยขนจมูกและถูกขับออกมาเป็นเสมหะ แต่ PM 2.5 นี้สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ถุงลมในปอด และผ่านเข้าสู่กระแสเลือดไปยังอวัยวะต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเรื้อรังและก่อให้เกิดมะเร็งได้
จากงานวิจัยพบว่า มลพิษทางอากาศเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ ได้เนื่องจากมีส่วนประกอบของสารเคมีหลายชนิด ทั้งที่เป็นสารระคายเคืองไปจนถึงสารก่อมะเร็ง จึงเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรค
PM2.5 มาจากไหน?
ฝุ่นละออง PM2.5 ส่วนใหญ่มาจากควันของท่อไอเสียที่เกิดจากการคมนาคมขนส่ง การผลิตไฟฟ้า การผลิตของภาคอุตสาหกรรม กิจกรรมจากแหล่งที่อยู่อาศัยและธุรกิจการค้า และการเผาในที่โล่งนั้นเอง
ฝุ่นพิษขนาด PM 2.5 คือภัยร้ายที่มองไม่เห็น หลาย ๆ ท่านอาจไม่ทราบถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเจ้ามลพิษทางอากาศนี้ สำหรับทุกคนแล้วไม่ควรเป็นต้นทุนชีวิตที่เราจะต้องแลกกับมัน ดังนั้นเรามาป้องกันตนเองกันด้วยการสวมหน้ากากและลดการทำกิจกรรมภายนอกในช่วงที่ค่าฝุ่นละอองเกินมาตราฐานกันนะครับ